ไลโคปีน ( Lycopene ) ความลับผิวสวยจาก
มะเขือเทศ
เคยสงสัยหรือไม่? ทำไมตอนเด็กๆ ผู้ใหญ่จึงมักชอบให้เรารับประทานมะเขือเทศและบอกกับเราเสมอๆว่ามันช่วยให้ผิวสวย สดใส ทั้งๆที่รสชาติของมันไม่น่าอภิรมย์เหมือนคุณประโยชน์ ที่กล่าเวมาเลยสักกะนิดเดียว วันนี้เรามาค้นหาความลับที่ซ่อนอยู่ในมะเขือเทศลูกน้อยกันเถอะ
อะไรอยู่ในมะเขือเทศ ?
มะเขือเทศ ( Tomato ) ถือเป็นเป็นพืชผักคู่ครัวไทยอีกชนิดหนึ่งที่เรารู้จักกันมานาน ภายในผลสีแดงสดประกอบไปด้วยสารอาหารที่สำคัญหลายชนิดเช่น สารจำพวกแคโรทีนอยด์ ชื่อ ไลโคปีน ( Lycopene )ซึ่งเป็นสารสีแดง และมีประโยชน์มหาศาลในเชิงผิวพรรณ นอกจากนี้มะเขือเทศยังมี วิตามินหลายชนิด เช่น วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินเค โดยเฉพาะวิตามินเอ และวิตามินซี มีในปริมาณสูง

ไลโคปีน ( Lycopene ) คืออะไร?
ไลโคปีนจัดอยู่ในสารจำพวก แคโรทีนอยด์ ( Carotenoid ) ชนิดหนึ่ง ละลายได้ดีในไขมัน ไลโคปีนมีโครงสร้างทางเคมี 2 แบบ คือ
1.) All-trans–isomer และ
2.) Cis-isomer ซึ่งในธรรมชาติจะพบในรูปแบบที่ 1.) มากกว่า แต่สุดท้ายแล้ว ไลโคปีนนรูปแบบที่ 1.) เมื่อถูกความร้อนจะกลายเป็นรูปแบบที่ 2.) แต่ดูดซึมเข้าร่างกายได้ในที่สุด อีกทั้งไลโคปีน ยังเป็นสารที่ร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์ได้เองดังนั้นเราจึงตัองรับประทานเข้าไปเท่านั้นประโยชน์แท้ๆที่แม่แนะนำ ถือเป็นเรื่องจริงที่มะเขือเทศช่วยให้เรามีสุขภาพกายและสุขภาพผิวดีขึ้น ตามที่ผู้ใหญ่แนะนำมาตั้งแต่เรายังเป็นเด็ก เหตุเพราะเจ้าสาร ไลโคปีน ในมะเขือเทศนี้เองที่เป็นกุญแจสำคัญของทุกคำถาม นอกจากเรื่องของสีแดงที่เป็นรงควัตถุที่ให้สีแดงจำเพาะในมะเขือเทศแล้ว ไลโคปีนยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ที่มีมีฤทธิ์แรงมากในด้านการต่อต้านอนุมูลอิสระสาเหตุสำคัญของโรคเสื่อมมีส่วนช่วยลดเลือนริ้วรอยก่อนวัย ปรับระบบฮอร์โมนและภูมิคุ้มกัน ยับยั้งเอนไซม์สำคัญที่ใช้ สังเคราะห์โคเลสเตอรอลและเร่งสลายโคเลสเตอรอลชนิดไม่ดี ตลอดจนช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตในร่างกายช่วยให้ผิวแลดูขาวอมชมพูดูมีเลือดฝาดตามที่คนโบราณเขาพูดไปไม่มีผิดเลยเชียว!
Tips!
รับประทานมะเขือเทศแบบไหนดีที่สุด?
การรับประทานมะเขือเทศที่ผ่านการแปรรูปด้วยความร้อนมาแล้ว จะทำให้ร่างกายดูดซึมไลโคปีนในระบบย่อยอาหาร
ได้ดีกว่ารับประทานแบบสดๆถึง 2.5 เท่า ดังนั้นจึงควรนำมะเขือเทศไปปรุงให้สุกก่อน หรือแค่รับประทานผลิตภัณฑ์
เสริมอาหารที่มีส่วนผสมของไลโคปีนแท้ๆ ก็ง่ายและสะดวกไม่แพ้กัน
การรับประทานมะเขือเทศที่ผ่านการแปรรูปด้วยความร้อนมาแล้ว จะทำให้ร่างกายดูดซึมไลโคปีนในระบบย่อยอาหาร
ได้ดีกว่ารับประทานแบบสดๆถึง 2.5 เท่า ดังนั้นจึงควรนำมะเขือเทศไปปรุงให้สุกก่อน หรือแค่รับประทานผลิตภัณฑ์
เสริมอาหารที่มีส่วนผสมของไลโคปีนแท้ๆ ก็ง่ายและสะดวกไม่แพ้กัน
มีวิธีการดูแลผิวด้วยมะเขือเทศมาฝากดังนี้!!
กระชับรูขุมขนด้วยมะเขือเทศและมะนาว
ผสมน้ำมะเขือเทศ 1 ช้อนโต๊ะกับน้ำมะนาวสด 2-4 หยด แล้วใช้สำลีชุบน้ำมะเขือเทศกับมะนาวที่ผสมไว้บนผิวบริเวณที่ต้องการ ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วใช้น้ำอุ่นเกือบเย็นล้างออกเพื่อทำให้รูขุมขนหดตัวลง และบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น
รักษาสิวด้วยเนื้อมะเขือเทศ
ลองใช้วิธีนี้ในการรักษาสิวที่เรื้อรังไม่หายขาด บดมะเขือเทศสด แล้วทาให้ทั่วใบหน้า แล้วหลับตาพักผ่อนโดยทิ้งให้มะเขือเทศอยู่บนใบหน้าประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่นเกือบเย็น ใช้วิธีนี้ทุกวันเป็นเวลาอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์ก็จะเห็นผล
ล้างหน้าด้วยมะเขือเทศ
หั่นมะเขือเทศออกเป็นครึ่งลูกแล้วนำมาถูให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 2-3 นาที พยายามถูในบริเวณที่เป็นสิวหัวดำมากกว่าที่อื่น แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น เกือบเย็น ใช้วิธีนี้เมื่อต้องการล้างหน้าพร้อมกระชับรูขุมขน และยังช่วยลดความมันส่วนเกินได้ด้วย
กระชับรูขุมขนด้วยมะเขือเทศ
เป็นสูตรกระชับรูขุมขนแบบเย็นและอ่อนโยน โดยคั้นให้ได้น้ำมะเขือเทศสดพร้อม ดื่ม หั่นแตงกวาบางๆ แล้วบีบให้ได้น้ำแตงกวาลงไปในน้ำมะเขือเทศ คนให้เข้ากัน แล้วใช้สำลีทาให้ทั่วใบหน้า จากนั้นล้างออกด้วยน้ำอุ่นพอสมควร ควรใช้วันละหนึ่งครั้งเพื่อให้ได้ผลดี
พอกหน้าด้วยมะเขือเทศ
โดยนำมะเขือเทศสดไร้สารตกค้าง มาปั่นให้ละเอียด (หรือคั้นสดๆ ก็ได้ หากไม่มีเครื่องปั่นผลไม้) นำมาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาทีล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ทำให้ใบหน้าแลดูสดใสเปล่งปลั่งขึ้นทันตา แต่สำหรับบางคนที่ไม่มีเวลาหรือขี้เกียจทำเองละก็ ลองเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของมะเขือเทศมาใช้แทนก็ได้
นอกจากนี้ มะเขือเทศยังมีคุณสมบัติช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา ช่วยเป็นยารักษาโรคผิวหนัง โดยใช้ใบตำให้ละเอียดทาบริเวณที่เป็นผลมีรสเปรี้ยว เสริมวิตามินซี เป็นยาระบายอ่อน ๆ ช่วยดับกระหาย ช่วยให้กระเพาะอาหาร ลำไส้ ไต ให้ทำงานได้ดีขึ้น และยังสามารถต้านอนุมูลอิสระ ขับสารพิษจากร่างกาย และเหมาะที่จะเป็นอาหารสำหรับคนเป็นโรคนิ่ว วัณโรค ไทฟอยด์ หูอักเสบ และเหยื่อตาอักเสบ โดยรับประทานผลสด ผู้ที่รับประทานมะเขือเทศเป็นประจำ จะช่วยลดอัตราการเกิดโรคมะเร็งในลำไส้ และมะเร็งต่อมลูกหมากได้ ช่วยแก้อาการปวดฟัน โดยนำราก ลำต้น และใบแก่ต้มกับน้ำรับประทาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น